October 16, 2007

เงา

เจ๋งมากมากเลยครับ

October 4, 2007

ทำงานกันอย่าเครียดมากนักนะ

Once upon a time in an Office

ชูชิกบ

เรื่องสยองของหนังสือลึกลับ

ดึกคืนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนึงตั้งใจที่จะศึกษาเรื่องราวของผีในประเทศไทย และอาถรรพ์ ต่างๆ ที่มีบันทึกไว้ในตำราจึงได้เดินเข้าไปในห้องสมุดโบราณ ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่ที่มีบันทึกเรื่องราวน่ากลัวต่างๆไว้อย่างมากมาย

ขณะที่กำลังค้นหาหนังสือลึกลับอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ได้พบกับเจ้าของร้าน มีท่าทางน่ากลัวมาก เป็นชายแก่ๆไว้หนวดเครา อายุไม่น่าต่ำกว่า 70 ปี มีสายตาที่เย็นชามาก

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้พบหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับบันทึกต่างๆเกี่ยวกับเรื่องผี หน้าปกก็ดูเหมือนมีมนต์มนขลังอะไรซักอย่างเมื่อ ชายหนุ่มได้หยิบหนังสือแล้วจะนำไปจ่ายเงิน ชายหนุ่มสังเกตุว่าเจ้าของร้านนั้น หน้าซีดและดูหวาดกลัวหนังสือเล่มนั้นเป็นอย่างมาก

เมื่อชายหนุ่มถามราคาเจ้าของร้านจึงบอกว่า 500 บาท ชายหนุ่มเห็นสีหน้าท่าทางหวาดกลัวของชายเจ้าของร้านทันที

เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาจากร้านก็ได้ยินเสียงเจ้าของร้านพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ ว่า 'อย่าเปิดหน้าสุดท้ายเด็ดขาดนะ'

เมื่อกลับมาถึงบ้านชายหนุ่มก็ได้ เปิดหนังสืออ่านโดยปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของร้านอย่างเคร่งครัดว่าห้ามเปิดหน้าสุดท้ายอย่างเด็ดขาดเมื่ออ่านหนังสือซักพักชายหนุ่มก็ได้เผลอหลับไป และในขณะนั้นเอง เผอิญมีลมพัดมาทำให้หนังสือตกลงมาจากโต๊ะ

ทำให้หนังสือได้เปิดไปที่หน้าสุดท้ายเข้า...

ชายหนุ่มตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังสือหน้าสุดท้าย มีข้อความว่า ........

หนังสือเล่มนี้ราคา 35 บาท

10 คำสาปอาถรรพ์

อันดับ 10 เพชรโฮป (Hope Diamond)


เป็นเพชรสีนํ้าเงินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีนํ้าหนักถึง 45.52 กะรัต โดยพ่อค้าฝรั่งเศสนาม จอห์น แบ็บติส ทราวิเนียร์ ได้ขโมยมาจากพระนลาฏ (หน้าผาก) เทวรูปฮินดูในวิหารแห่งหนึ่งของอินเดีย เมื่อราว ค.ศ. 160 โดยหารู้ไม่ว่าโคตรเพชรนี้มีคําสาปติดมาด้วย นั่นคือ

มันผู้ใดที่ขโมยหรือครอบครองเพชรโฮป จะต้องประสบความวิบัติทุกรายไป! และก็จริงตามคําสาป นับตั้งแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งทรงซื้อเพชรนี้ จากนายทราวิเนียร์ พระองค์ และพระราชวงศ์ก็ทรงได้รับภัยร้ายกาจ จากการปฏิวัติของฝรั่งเศสตลอด กระทั่งนาย เฮนรีย์ ฟิลิป โฮป (เจ้าของชื่อเพชรเม็ดนี้) นายปิแอร์ คาร์เทียร์ (พ่อค้าอัญมณีชื่อดังที่เรารู้จักกันดี) ฯลฯ ล้วนประสบกับอัปมงคล จนถึงผู้ครอบครองรายสุดท้ายคือ ตระกูลของ เซอร์ ฮาร์รีย์ วินสตัน ได้ให้เลดี้ไฮโซ ผู้หนึ่งยืมสร้อยคอเพชรโฮป สวมใส่ในงานราตรี สองเดือนต่อมา ลูกน้อยของเธอก็ตายอย่างลึกลับ สามีกลายเป็นบ้าและต้องหย่าขาดกัน

ในที่สุด ทายาทตระกูลวินสตันจึงมอบเพชรโฮปให้สถาบันสมิธ โซเนียนของสหรัฐฯ เป็นผู้อนุรักษ์แทน

อันดับ 9 วิหารกระดูก แห่งเมือง อีโวราโปรตุเกส


วิหารนี้สร้างในศตวรรษที่ 15 โดยพระนิกายฟรานซิสกัน ที่ประหลาดพิสดารคือ ผนังภายในวิหารนี้สร้างขึ้นจากกระดูกของมนุษย์กว่า 5,000 คนครับ เท่านั้นไม่พอ มีซากศพ 2 ร่าง ห้อยแขวนติดผนังด้านหนึ่งด้วย!

ตํานานวัดระบุว่า ครั้งกระโน้นมีสตรีนางหนึ่งซึ่งยึดมั่นในคาทอลิก แต่ได้ถูกสามีผู้โมโหร้ายกับลูกชายของ เธอเองช่วยกันโบยตีจนตาย ก่อนสิ้นชีวิต เธอได้สาป ให้วิญญาณของเขาทั้ง 2 ลงนรก แม้แต่พื้นพสุธา ก็จะไม่ยินดีรับร่างของเขาไว้ ไม่นานนัก ชายทั้งสองก็ถึงแก่มรณกรรม

ชาวเมืองพยายามขุด หลุมฝังศพของเขา แต่ขุดลงไปที่ใดก็เจอะแต่หิน เมื่อจนปัญญา พวกเขาจึงนําเอาซากศพทั้งสองขึ้น ไปห้อยแขวนไว้กับ ผนังวิหารดังกล่าว สําหรับให้นักบวชได้ใช้ปลง ในระหว่างทําสมาธิ ก็นับเป็นคําสาปที่ขลังยิ่ง

อันดับที่ 8 ละครเรื่อง แม็คเบ็ธ (Macbeth) ของเชคสเปียร์


ละครเรื่องนี้มีฉากที่เกี่ยวกับแม่มด และ คําสาปมนต์ดํา ว่ากันว่าทําให้แม่มดตัวจริงสมัยนั้น เคืองแค้น ที่เชคสเปียร์นําเอาเรื่องลับของพวกเขามาเปิดเผย จึงสาปให้ละครเรื่องนี้มีอันเป็นไป หากใครนํามาแสดงโดยเฉพาะตัวละครที่เล่นบท แม็คเบ็ธ

ผลของคําสาปอุบัติขึ้น ตั้งแต่หนแรกสุดที่ละครนี้ออกแสดง โดยผู้แสดงที่ชื่อ ฮัล เบอร์ริดจ์ ซึ่งสวมบทเลดี้เอม ได้ล้มเจ็บลงในคืนนั้น และสิ้นใจตายหลังเวที และนับแต่นั้นมาเกือบ 400 ปี ละครเรื่องนี้ก็มีอาถรรพณ์เกิดขึ้นกับนักแสดงมาตลอด เช่น มีอุบัติเหตุบาดเจ็บ ล้มตาย บางคนฆ่าตัวตาย และที่น่าพรึงเพริดที่สุดก็คือ ในปี ค.ศ. 1947 นักแสดงชื่อ ฮาโรลด์ ทอร์แมน เป็นผู้รับบทแม็คเบ็ธ ในระหว่างการดวลดาบนั้น คู่ต่อสู้ของเขาลืมสวมที่ครอบปลายดาบ พอแม็คเบ็ธ ถูกแทงล้มลง กลางเวที ผู้ดูต่างก็ปรบมือพอใจในบทบาท หากทว่า หลังเวทีนั่นซิ ต่างก็ตกใจกันยิ่งนักที่เขาโดน แทงจริงๆ ทอร์แมนตายใน 3 สัปดาห์ต่อมา

อันดับ 7 คําสาปของ อลิสแตร์ ครอว์ลีย์ พ่อมดแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์


สกอตแลนด์ ปี 1899 ครอว์ลีย์อาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยว ทางตอนใต้ของทะเลสาบที่ลือลั่นในเรื่องอสุรสัตว์ กล่าวกันว่า เ ขาขมังในเรื่องเวทมนตร์ และเลี้ยงวิญญาณภูตไว้ถึง 115 ตน เขาสามารถดลบันดาลให้ เพื่อนบ้านหลายคนมีอันเป็นไปนานา จนเป็นที่หวาดหวั่นไปทั่ว

ก่อนตาย ครอว์ลีย์ ได้สาปทิ้งท้ายไว้กับยอด เขาแห่งหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า "ปล่องไฟปีศาจ" และครอว์ลีย์เคยหลงทางที่ยอดเขานี้ ซึ่งทําให้เขาขัดเคืองใจ จึงสาปว่าเมื่อใดที่ยอดเขานี้พังทลาย สิ่งชั่วร้ายต่างๆก็จะถูกปลดปล่อยแผ่กระจายไปด้วย "ปล่องไฟปีศาจ" ยืนหยัดอยู่นานนับพันปี แต่แล้วในเดือนเมษายน 2001 ยอดสูงราว 70 เมตร ก็มีอันถล่มทลายลงมาในทะเล เรื่องนี้ทําให้ผู้ที่เชื่อถือในตํานานพากันผวาไปตามกันเลยครับ ป่านนี้นรกคงครอบคลุมแผ่นดินแล้ว!

อันดับ 6 คําสาปวูดูแห่งนิวออร์ลีนส์ สหรัฐฯ


แม่มดวูดูผู้นี้มีนามว่า มารี ลาโว มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1800 กว่าๆ เพื่อนบ้านรํ่าลือกันว่าเธอสามารถสาปได้ทั้งคน และสัตว์ โดยใช้มนต์ดําของวูดู กระทั่งทุกวันนี้ยังมีการ จัดทัวร์พาไปชมบ้านของเธอ รวมทั้งบนบานขอให้เธอช่วยสาปใครก็ได้ เรียกกันว่า บลัดดี้มารีทัวร์

ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องปฏิบัติดังนี้

เริ่มจากเคาะ 3 ครั้งบนโลงศพของมารี แล้วหมุนกายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของเธอออกมาดังๆ จากนั้นก็บอกกล่าวถึงจุดประสงค์ของคุณ (ว่าจะให้เธอดลให้ศัตรูของคุณวิบัติอย่างไร) ไม่เชื่อก็เดินทางร่วมทัวร์ไปพิสูจน์ได้

อันดับ 5 คําสาป ตุตันคาเมน อียิปต์



เรื่องนี้เราคงเคยได้ฟังกันมาแล้ว จึงขอผ่าน สรุปสั้นๆแค่ว่า ทั้ง โฮวาร์ด คาร์เตอร์, ลอร์ด คาร์นาวอน และผู้มีส่วนรบกวนสุสานของฟาโรห์องค์ นี้ ล้วนมีอันล้มหายตายจากก่อนวัย อันควรทั้งนั้น

อันดับ 4 อีกา แห่งป้อมปราสาท ลอนดอน (Tower of London)



ป้อมปราสาทนี้ เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะถูกใช้เป็นที่คุมขัง และประหารบุคคลสําคัญๆ ของอังกฤษมากมาย หลายท่าน ณ ลานปราสาทแห่งนี้จะมีการเลี้ยงดูอีกา จํานวน 6 ตัว เนื่องจากมีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่า ถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือน นครลอนดอน และสิ้นสุดพระราชวงศ์แห่งอังกฤษ!

เรื่องนี้มีตํานานปรากฏเป็นเอกสาร ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ราวศตวรรษที่ 17 ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยแต่อย่างใด และทําให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นยาม หรือกษัตริย์ถือเป็นเรื่องจริงจังอย่างเคร่งครัด เช่นว่า ถ้ามีอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีนทันที และต้องจัดหาอีกาตัวใหม่ มาทดแทนโดยด่วน ซึ่งอีกาทุกตัวจะมีชื่อเรียก และถ้าตายก็จะถูกนําไปฝังอย่างมีพิธีการ จะมีการเลี้ยงอีกาไว้สํารองตลอดเวลา ถ้าตัวใดล้มป่วย ก็ต้องรีบตรวจสอบ หาไม่ถ้าหากตายโดยโรคติดต่อ (เช่น ไข้หวัดนก) และเช้าขึ้นมาอีกาตายเกลี้ยงละก้อ เชื่อกันว่าทั้งพระราชวงศ์ก็จะอันตรธานไปเช่นกัน


อันดับ 3 คําสาปตะกั่วแห่งกรีซ



ใน ค.ศ. 1979 มีการขุดค้นโบราณสถานชื่ออโกรา, นครเอเธนส์ ทําให้พบแผ่นม้วนตะกั่วบางๆ ซึ่งมีจารึกภาษาโบราณอันเป็นคําสาปปรากฏอยู่ แผ่นตะกั่วนี้เรียกกันว่า คาตาเรส (Katares) ใช้ใส่ลงในโลงศพก่อนจะฝัง

เชื่อกันว่า ตะกั่วจะทําให้คําสาปจมลงไปอย่างรวดเร็วถึงขุมนรกพร้อมกับวิญญาณผู้ตาย เพื่อที่พระยมจะได้อ่านคําสาปและดลบันดาลให้เป็นไปตามนั้น นอกจากนี้ การฝาก หรือทิ้งแผ่นคําสาปลงไปในนํ้าก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง เพราะนํ้าจะสามารถสื่อ ไปถึงผู้ที่เราต้องการสาปได้ ซึ่งแผ่นคาตาเรสกว่า 100 แผ่นที่ค้นพบนี้ได้ระบุจ่าหน้าถึง ซูลิส ไมเนอร์วา ซึ่งเป็นเทพีด้านอุทกของโรมัน


อันดับ 2 คําสาปวัฏจักรมรณกรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ



นี่ก็เป็นอาถรรพณ์อีกอย่างซึ่ง โด่งดังมาก นั่นคือ ปธน. สหรัฐฯ ท่านใดที่ได้รับเลือกตั้งในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 จะต้องถึงแก่ มรณกรรมในหน้าที่ ตํานานระบุว่า ผู้ที่สาปก็คือ เตคัมเซ่ หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ผู้คับแค้นจากการถูกชนผิวขาวเข้ามายํ่ายีแย่งแผ่นดิน เขาได้สาปไว้ก่อนที่จะถูกฆ่าตายในปี ค.ศ. 1813
ปธน.คนแรกที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ วิลเลียม เฮนรีย์ แฮร์ริสัน ที่ได้รับเลือกตั้งใน ค.ศ. 1840 ถัดจากนั้นคําสาปก็เป็นจริงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น

• ลิน-คอล์น (1860)

• การ์ฟิลด์ (1880)

• แม็คคินลีย์ (1900)

• ฮาร์ดิ้ง (1920)

• รูสเวลท์ (1940)

• เคนเนดี้ (1960)


อันดับ 1 คําสาปในสวนอีเดน (Garden of Eden)



นับเป็นคําสาปแรกเริ่มสุดๆ ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลกโน่นเลย โดยปรากฏเรื่องราวอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่า ก็อดทรงเสกอาดัม มนุษย์ผู้ชายขึ้นก่อน จากนั้นก็แซะเอาซี่โครงของอาดัมมาเสกเป็นอีฟ แล้วส่งทั้งคู่ไปอยู่ในสวนอีเดน พร้อมรับสั่งว่าจะกินอะไรก็ได้ทุกอย่าง ยกเว้นผลไม้จากต้นแห่งความรู้ หรือแอปเปิ้ล แต่งูตัวแสบซิครับ มันยุยงอีฟให้หมํ่าแอปเปิ้ลเข้าไป หมํ่าคนเดียวไม่พอ อีฟยังชักชวนให้อาดัมหมํ่าด้วย เมื่อขัดคําสั่งของพระเจ้า ก็เป็นเรื่องซิ

August 29, 2007

ภาพ 3D สวยๆ








ข้อความซึ้งๆ และ ข้อคิดดีๆ

สิ่งที่แข็งที่สุด.. เอาชนะได้ด้วย..สิ่งที่อ่อนที่สุด

เมื่อประตูบานหนึ่งปิด.. อีกบานหนึ่งก็เปิด.. แต่บ่อยครั้ง..ที่เรามัวแต่จ้องประตูบานที่ปิด จนไม่ทันเห็นว่า...มีอีกบานที่เปิดอยู่

อย่ามัวค้นหา..ความผิดพลาด จงมองหา..หนทางแก้ไข

อารมณ์ขัน..เป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่สุด.. ที่ช่วยรักษาสิ่งอื่นได้... เพราะทันทีที่เกิดอารมณ์ขันความรำคาญ..และความขุ่นข้องหมองใจ..จะหายไป กลับกลายเป็น..ความเบิกบานแจ่มใส..ของจิตใจเข้ามาแทนที่

อย่ากลัว..ที่จะนั่งหยุดพัก.. เพื่อคิด

1 นาที..ที่คุณโกรธ เท่ากับ..คุณได้สูญเสีย 60 วินาที แห่งความสงบในจิตใจ..ไปแล้ว

หนทางเดียว..ที่จะรักษาภาพพจน์ได้..คือ.. การซื่อสัตย์..ตลอดเวลา

ผู้ชนะ..ไม่เคยลาออก และผู้ลาออก..ก็ไม่เคยชนะ

ออกซิเจน..สำคัญต่อปอดเช่นไร ความหวัง..ก็เป็นเช่นนั้นต่อความหมาย..ของชีวิต

การมีชีวิตอยู่นานเท่าใด.. มิใช่..สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญ..ก็คือ มีชีวิตอยู่อย่างไร

เราเข้าใจชีวิต.. เมื่อมองย้อนหลัง..เท่านั้น แต่..เราต้องดำเนินชีวิต..ไปข้างหน้า

ไม่มีสิ่งใด..ช่วยให้คุณ..ได้เปรียบคนอื่น มากเท่ากับ..การควบคุมอารมณ์..ให้สงบนิ่ง..อยู่ตลอดเวลาในทุกสถานการณ์

ความอดทน.. คือ..เพื่อนสนิท..ของสติปัญญา

พรสวรรค์ยิ่งใหญ่..ของมนุษย์ คือ การที่เราสามารถ..เอาใจเขามาใส่ใจเราได้

ในธรรมชาติ..ไม่มีสิ่งใดดีพร้อม แต่ทุกอย่าง..ก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง ต้นไม้..อาจบิดเบี้ยวโค้งงอ..อย่างประหลาด แต่ก็ยังคง..ความงดงาม

มักพูดกันว่า.. กาลเวลา..เปลี่ยนทุกสิ่ง แต่จริงๆแล้ว คุณ..ต้องเปลี่ยนทุกสิ่ง..ด้วยตนเอง

July 10, 2007

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

ทวีปยุโรป 1 แห่ง

สนามกีฬาโคลอสเซียม ประเทศอิตาลี

ตั้งอยู่ใน กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง สิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรโรมันโบราณสร้างขึ้นใน ระหว่าง ค.ศ. ที่ 72 - 80 ตัวสนามสร้างมีรูปเป็นตึกวงกลมก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่ วัดโดยรอบยาว 527 เมตร สูง 57 เมตร มี 4 ชั้น

ภายในมีอัฒจรรย์สำหรับคนนั่งดู จุคนดูประมาณ 80,000 คน ใต้อัฒจรรย์ และใต้ดินมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต และสิงโต หลายร้อยห้อง ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษ ต่อสู้กับสิงโตที่อดอาหาร หากนักโทษผู้ใดเอาชนะ ฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าได้ก็รอดชีวิตไป หรือ ไว้ใช้เป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเอง ยิ่งถ้าต่อสู้กัน จนถึงสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ตาย ก็จะได้รับเกียรติอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันนิยมและยกย่องกันมาก ปีๆหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน

ทวีปอเมริกาเหนือ 1 แห่ง


ชิเชน อิตซา ประเทศเม็กซิโก

ชิเชน อิตสา เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารจำนวนมากซึ่งพวกมายาได้สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้ทรงกระหายพระโลหิต ตัววิหารก่อสร้างซ้อนกันเป็นชั้น ๆ บนเนื้อที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า มหาวิหารแห่งนักรบ สร้างคริสต์ศตวรรษที่ 12 สร้างทีหลัง วิหารเก่าแห่งชัคมูล ตรงกลางสร้างเป็นปราสาทเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไปใช้เป็นที่ทำพิธีสังเวยเทพเจ้า โดย ใช้เด็กสาวโยนลงไปถวายเทพเจ้า ณ ที่นั้น

ลักษณะโดยทั่วไปของชิเชน อิตสา ทำเป็นรูปเหลี่ยมลดขั้นเป็นชั้น ๆ มีบันไดกลาง รอบ ๆ ทำเป็นบริเวณตลาดทำนองเดียวกับสถานสถิตยุติธรรมของพวกโรมัน ซึ่งอยู่กลางเมือง ที่สาธารณะ เป็นที่รวมของฝูงประชาชน ชนเผ่ามายาแห่งเม็กซิโก สืบสายมาจากคนพวกแรกที่เดินทางจากเอเชีย เข้ามายัง อเมริกา ทางช่องแคบเบริ่ง ได้มีการพัฒนาทางวัฒนธรรมทั้งในด้านเหี้ยมโหดอันป่าเถื่อน และความมี สติปัญญาอันสูงส่งในขณะเดียวกัน

พวกมายาฝึกความเสียสละด้านมนุษยชาติ ควักหัวใจผู้ที่รับการบูชาออกสังเวยพระเจ้า ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาความรู้ด้านดาราศาสตร์ ศิลปะของสถาปัตยกรรม ทางอักษรศาสตร์ ด้านการเขียนบันทึกด้วยตัวอักษรพิเศษ และการค้นพบค่าของเลข 0 ทางคณิตศาสตร์ แต่ก็น่าแปลก ที่พวกนี้มิได้ค้นพบประโยชน์อันเกิดจากล้อเลื่อน

ศูนย์กลางของอารยธรรมของคนพวกนี้อยู่ที่ชิเชน อิตสา ในคาบสมุทรยุกาตัน ผู้ค้นพบ ขุมอารยธรรมเหล่านี้แล้วนำออกมาเผยแพร่ให้ชาวโลกได้ทราบคือ นายธอมป์สัน ชาวอเมริกา ผู้ใช้ ชีวิตซอกซอนท่องเที่ยวไปในหมู่พวกมายาด้วยความสนใจจะศึกษาสิ่งลึกลับต่างๆ

ทวีปอเมริกาใต้ 2 แห่ง

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ประเทศบราซิล

รูปปั้นของพระเยซูที่โปรดให้พ้นบาป ยืนสูง 30 เมตร (98ฟุต) และกำลังมองข้ามเมือง Rio de Janeiro หนึ่งในรูปปั้นสูงที่สุด ในโลก. รูปปั้นแสดง พระเยซูเยืนยื่นแขนออกมาต้อนรับ และเป็นหนึ่งของสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้ พัฒนาโดยวิศวกร Heitor da Silva Costa และองค์กร สร้างขึ้นในปี 1921 โครงการทำเกือบ 5 ปีจึงเสร็จสิ้น

รูปปั้นอยู่บนภูเขา Corcovado (ภูเขา Hunchback ) และตั้งใน อุทยานแห่งชาติ Tijuca เป็นสถานที่ปิคนิกที่รื่นเริง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปฐานของรูปปั้น ซึ่งสูง 709 m (2326ฟุต) สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขา Sugar Loaf กลางเมือง Rio de Janeiro และชายหาดของ Rio de Janeiro นักท่องเที่ยวสามารถ ขึ้นรถไฟ ไปบนยอดของภูเขาเพื่อมองรูปปั้นอย่างใกล้ชิด และสร้างวิวที่สวยงามมากมาย



มาชู ปิกชู ประเทศเปรู

มาชู ปิกชู แห่งอาณาจักรอินคา( Inca city , Machu Picchu) ตั้งอยู่ที่ เมืองคุสโซ ประเทศเปรู มาชู ปิกชู อยู่บนยอดสูงมีบริเวณรอบ ๆ รวมแล้วความสูงของหน้าผาประมาณ 304.8 เมตร (1,000 ฟุต) ฮิแรม บิงแฮม นักสำรวจชาวอเมริกัน พบ ในปี ค.ศ. 1911

บริเวณนั้นเป็นป่าใหญ่คลุมพื้นที่อยู่ นอกจากสิ่งก่อสร้าง ปรักหักพังบางส่วนที่โผล่อยู่ให้เห็นสิ่งก่อสร้างดังกล่าวบ่งบอกให้เห็น ความสามารถยอดเยี่ยม เชิงสถาปัตยกรรมของชาวอินคาในอดีต เพราะมีทั้งโบสถ์วิหาร อ่างหินสำหรับเก็บน้ำ บันไดหินเป็นพัน ๆ ขั้น เพื่อเป็นทางทอดระเบียงลงไปในที่ต่าง ๆ แห่งนครภูเขานี้


ทวีปเอเชีย 3 แห่ง


กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน

กำแพงเมืองจีน( Great Wall of China ) เป็นกำแพงกั้นเมือง และกั้นประเทศ ตามพรมแดนด้านเหนือของจีน เป็นกำแพงที่ยาวใหญ่มหึมา มีขนาดกว้างตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง 7.5 เมตร(10 ฟุต) มีความสูง จากพื้นด้านล่างตั้งแต่ 8 เมตร ถึง 9 เมตร(20-30 ฟุต หนา15-25 ฟุต)

ได้รับขนานานามว่ากำแพงหมื่นลี้เพราะมีความยาวถึง 14,600 ลี้ (ราว 6,700 กิโลเมตร) บนกำแพงทุก ๆ ระยะ 200 เมตร(300 ฟุต) จะมีหอหรือป้อม สำหรับตรวจเหตุการณ์ มีป้อมมากกว่า 15,000 แห่ง สร้างสูงขึ้นไปอีก 3 เมตร ถึง 6 เมตร และมีระฆังแขวน เพื่อตีบอกสัญญาณเกิดเหตุ ไว้ประจำทุกหอ รวมทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 20,000 หอ

เริ่มสร้างระหว่างปี 243-252ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยพระเจ้าซี่วังตี่ (จิ๋นซีฮ่องเต้) มีการสร้างต่อเติมอีกหลายครั้ง ใช้แรงงานเกณฑ์จากราษฎรทั้งประเทศ นับจำนวนล้าน มีผู้เสียชีวิตเรือนหมื่น อีกทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้าง ชนิดเดียวในโลก ที่สามารถมองเห็น จากดวงจันทร์


ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย

ทัชมาฮัล เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะที่นี่เป็นสุสานฝังศพของ มุมทัชมาฮัล ราชินีผู้ป็นที่รักยิ่งของ พระเจ้าชาห์เยฮัน อยู่ในเมืองอัคระ บนฝั่งแม่น้ำยมนา ประเทศอินเดีย มุมทัชมาฮาล เป็นมเหสีที่พระเจ้าชาห์เยฮันรักมากที่สุด พระนางสิ้นพระชนม์เพราะคลอดโอรสองค์ที่ 15 ซึ่งทำให้พระเจ้าชาห์เยฮัน เศร้าโศกมาก พระองค์จึงสร้างที่ฝังศพที่ใหญ่โตที่สุดในโลกขึ้นที่ริมแม่น้ำยมนา

สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1630-1648 สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย โดยสถาปนิก อุสตาด ไอสา (Ustad lsa) มีผู้ร่วมสร้างเป็น ผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน ช่างประดับลวดลายด้วยกระเบื้อง ช่างแกะสลัก ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน วัตถุในการก่อสร้าง คือ หินอ่อนสีขาวจากเมืองมะครานา หินอ่อนสีแดงจากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลือง จากฝั่งแม่น้ำนรภัทฑ์ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ปะการัง และ หอยมุกจากมหาสมุทรอินเดีย หินเจียรไนสีฟ้าจากเกาะลังขะ เพชรจากเมืองบนทลขัณฑ์ สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 50,000,000 เหรียญอเมริกัน หรือ ประมาณ 1,000,000,000 บาท

ได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน และ วิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร(130 ฟุต) ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร(200 ฟุต) มีโดมเล็กๆ เป็นหสูงอยู่ทั้ง 4 มุม ภายในประดับด้วย หินอ่อนสลักฉลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วย พลอยสี ทับทิม และนิล ตรงกลางภายใต้หลังคาโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน และมีฉากหินอ่อนฉลุลายงามเป็นพิเศษกั้นอีกชั้นหนึ่ง แต่ศพจริงๆ ไม่ได้บรรจุอยู่ในหีบ

หากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพนั้น ภายหลังที่สร้างทัชมาฮัล ซาร์เจฮันใฝ่ฝันที่จะสร้าง ที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆ แต่เมื่อโอรสขึ้นครองราชย์สมบัติจึงจับพระองค์ขังอยู่ได้ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ ประมาณปี พ.ศ.2209 (ค.ศ.1666) แล้วเอาศพไปฝังข้างศพมเหสีผู้เป็นที่รัก ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่สวยกว่า


เปตรา ประเทศจอร์แดน

นครเปตราในจอร์แดนเป็นเมืองที่เจาะสลักเข้าไปในหินเกือบทั้งหมด รอบบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น วิหาร หลุมศพ บันได โรงละคร ซึ่งขุดสลัก มาแต่ยอดเขาลงมาเป็นหลืบลดหลั่นเป็นช่อชั้นงดงาม แสดงถึงฝีมือและ ศิลปะในการสลักหินได้อย่างยอดเยี่ยม

สีของหินกลมกลืนกัน ตัวตึกสี เลือดนก สีกุหลาบและสีม่วงเป็นลำดับ ถือกันว่าเป็นศูนย์กลางของอารยธรรม เบื้องต้นของเขตตะวันออกกลางที่เรียกว่านาบาทีนส์ คนแถบนี้เป็นพวกเร่รอน อาชีพเลี้ยงแกะอยู่ไม่เป็นที่ เป็นพวกชอบทำธุรกิจค้าขายเครื่องเทศจากตะวันออก ไปยังเขตเมดิเตอร์เรเนียน

จากนั้นก็ขนส่งลงเรือไปสู่ยุโรป ในช่วงเวลาที่มีการ ค้าขายอย่างกว้างขวางกับอาณาจักรต่าง ๆ สืบมาจนถึงปัจจุบันได้ใช้เส้นทาง ในเขตซีเรียสู่ซาอุดีอารเบียโดยอาศัยกองคาราวานขนส่ง ได้สร้างความร่ำรวย และอำนาจราชศักดิ์ จนได้กลายมาเป็นนครเปตราขึ้นจากพวกอีโดไมท์ ซึ่งถือ เป็นเมืองหลวงในราว 300 ปี ก่อนคริสต์กาล

สิ่งก่อสร้างสำคัญชิ้นหนึ่งในนครเปตราคือมหาวิหารกวาซร์ ฟีราโอน ซึ่งสร้างสมัยพระเจ้าอาเรตัสที่4 มหาราชของชาวนาบาทีนส์ ซึ่งครองราชย์ระหว่าง 9 ปีก่อน ค.ศ. จนถึง ค.ศ. 40 การบูรณปฏิสังขรณ์นครเปตรากำลังดำเนินอยู่อย่างมาก ในปัจจุบัน นครแห่งนี้ถูกค้นพบในรูปปรักหักพังมาตั้งแต่ ค.ศ. 1812 นับเป็นนครที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้ไปชมปีละมากมาย ความนิยมดังกล่าวช่วยยกฐานะให้นครเปตรากลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ สิ่งหนึ่งในโลก

June 28, 2007

แป้งสระผมได้ด้วย..รู้รึเปล่า..

เวลาไม่ได้สระผมหลายๆ วันนี่ ผมจะสกปรก เหนียว เป็นมันเยิ้มมากรู้สึกไม่สบายหัวเอาเสียเลย แถมคนข้างๆ เค้ายังมองแปลกๆ อีกด้วยไม่ใช่ว่าเป็นคนสกปรก ขี้เกียจสระผมหรอกนะแต่มันมีเหตุจำเป็นจริงๆ นี่นา อย่างเวลาไม่สบายสระผมไม่ได้เนี่ยจะทำไงได้ล่ะ

ไม่ยากหรอก คุณอาจจะไม่เชื่อว่าแป้งเด็กสามารถช่วยแก้ปัญหาผมเหนียวเหนอะหนะได้ โดยการแบ่งผมออกเป็น 4 ส่วน แล้วค่อยๆ โรยแป้งเด็กลงไปบนหนังศีรษะตรงช่องว่างระหว่างผมที่เราแบ่ง แล้วนวดหนังศีรษะประมาณ 2 นาทีให้แป้งดูดซับความมัน แล้วจึงแปรงผมเอาแป้งออกเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปพลางๆ ก่อนแล้วพอหายป่วยแล้วก็อย่าลืมสระผมให้สะอาดด้วยล่ะ

มาแก้โรคเฉื่อยแฉะกันเถอะ!

เสน่ห์ของผู้หญิง (เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันแล้ว) เราจะหมดไปถ้าไม่ใส่ ใจสุขภาพ ความสวยคือการบำรุงทั้งภายนอกและภายใน ภายนอกบำรุงจากการใช้ครีม แต่การบำรุงจากภายในก็คือการหาอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายเพื่อเสริม สร้างให้ร่างกายแข็งแรงแลยังทำให้พวกเรามีบุคลิกดูดีขึ้นด้วยนะ การดูแลและรักษาสุขภาพของตัวเราเองยิ่งทำให้เห็นถึงความเอาใจใส่รักตนเอง ความสวยต้องควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่ดีด้วย งั้นเรามาดูอาหารบำรุงสมองและร่างกายกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างจะได้เตรียมตัว เป็นสาวสุขภาพดีกันไงล่ะคะ

โรคเหนื่อยง่ายเฉื่อยชา
เนี่ยควรหมั่นรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 2 จะช่วยต้านได้ซึ่งแหล่งอาหารที่มีวิตามินบี2 ก็จะมีอยู่ในจำพวกตับ ไข่แดง นม เนยแข็งและเนื้อสัตว์ต่างๆ รับประทานในปริมาณเพียงพอ ก็จะทำให้เราสดชื่นขึ้นได้นะ

โรคประสาทเฉื่อย
อาการ คลื่นไส้วิงเวียให้ดื่มน้ำสองสหายเยอะๆหน่อย จะทำให้ดีขึ้น ส่วนผสมก็คือ น้ำแครอทผสมน้ำแอปเปิล แถมยังแก้อาการอ่อนเพลียได้ด้วย

โรคขาดเรี่ยวแรง
ให้ทานมะระมากๆ แต่มะระเปล่าๆก็ขมไม่ใช่เล่น ลองทานก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ กินง่ายขึ้นเยอะเลยนะคะ

โรคเครียด โรคประสาท
นี่เลย หอยนางรม แต่ควรกินให้พอเหมาะเพราะหอยนางรมมีคลอเลสเตอรอลสูง ไม่งั้นลงพุงไม่รู้ด้วยล่ะ

โรคอ่อนเพลีย
ให้ทานมะเขือเทศ จะทานเปล่าๆก็ไม่อร่อย งั้นลองทำน้ำมะเขือเทศสิ จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเลยถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนเป็นสลัดผักใส่มะเขือเทศ ผสมกับผลไม้หลายๆอย่างตามชอบ เห็นมั้ยล่ะ ทั้งอร่อย ทั้งสุขภาพดี

การรับประทานอาหารควรครบทั้ง 5 หมู่ เราจะได้สารอาหารครบในแต่ละชนิดในแต่ละวัน เพราะอาหารแต่ละชนิดจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆของร่างกายไม่เหมือนกัน รู้แบบนี้ถ้าเลือกทานให้ได้ประโยชน์จะได้ทั้งสวยทั้งฉลาดและแข็งแรงด้วยนะ

วิธีแก้อาการท้องผูก

1. ทานอาหารให้ตรงเวลาและครบตามสัดส่วนที่ร่างกายต้องการ หากทานอาหารน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายปรับสภาพในการเผาผลาญไม่คงที่
2. ทานผัก ผลไม้ ที่มีกากใยอาหาร (Fiber) ในปริมาณมาก จะช่วยให้ระบบการเผาผลาญและระบบการขับถ่ายดีขึ้น
3. ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการทานยาระบาย
5. ฝึกขับถ่ายให้เป็นระบบ
6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ

June 26, 2007

อุทาหรณ์สำหรับชายชีกอ

เย็นวันหนึ่งหลังจากผมไดร์ฟกอล์ฟที่สนามไดร์ฟย่านชานเมือง ขณะที่ผมขึ้นรถเตรียมจะกลับบ้าน ก็มีเด็กสาวอายุราว 15-16 ปี วิ่งมาเกาะที่ประตูรถผมพร้อมกับถามว่า

เด็กสาว : "พี่ๆเอาหนูไหมคะ ไม่แพง"

ผมรู้สึกงุนงงกับคำถาม จึงถามเธอกับไปว่า

ผม : "อะไรนะ"
เด็กสาว : "พี่จะเอาหนูไหม ไม่แพง รับรองสะอาด หอมด้วย"

ผมมองดูเด็กสาวคนนั้นอย่างพิจารณา "น่ารักแฮะ" ใจผมคิดอย่างนั้น พร้อมกับดูรูปร่างของเธอ "ไม่เลว รูปร่างดีเหมือนกัน" จึงถามเธอกลับไปว่า

ผม : "เท่าไหร่ล่ะ"
เด็กสาว : "ร้อยเดียวค่ะ พี่"

"โอ้โห ถูกเป็นบ้า" ใจผมคิดอย่างนั้น ผมจึงหยิบเงินให้เธอ พร้อมกับถามเธอว่า

ผม : "เอ่อ......ที่ไหนดีล่ะ"
เด็กสาว : "ตรงนี้ก็ได้ค่ะพี่ รอแป็บเดียวนะคะ"

"ตรงนี้เลยเหรอ" ผมนึกในใจ แล้วเด็กสาวก็วิ่งไปที่พุ่มไม้ใกล้ๆ ส่วนผมก็นั่งรอด้วยใจระทึก สักครู่เธอก็วิ่งกลับมาพร้อมกับถือถุงบางอย่าง มายื่นให้ผม

เด็กสาว : "ขอบคุณค่ะ"

เธอกล่าว แล้วเธอก็วิ่งกลับไปที่พุ่มไม้เดิม ผมจึงเปิดถุงออกดูด้วย ความสงสัย แล้วผมก็เห็นหนูครับหนู หนูจริงๆ มันคือหนูนาย่าง 3 ตัว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเต็มรถ ราว 10 นาที หลังจากนั้นผมจึงออกรถกลับบ้านพร้อม กลับความงุนงงว่า ... อะไรกันวะ

June 7, 2007

บักหม่อง (ขำขัน)

...ทำไม บักหม่อง ถึง พาเพื่อน..แห่กันไปเที่ยวผับ.. ทีละ 18 คน... ก็เพราะหน้าผับ ................เขาประกาศไว้ว่า ................
ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้าน่ะสิ (!!)


บักหม่อง..ไปร้านขายทีวี.. ! ถามคนขายว่า "ไม่ทราบว่า..ที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า?"
คนขายตอบว่า.."มี"
บักหม่องเลยบอกว่า ................"งั้นเอาสีเขียวมาเครื่องนึง" (!!)


บักหม่อง..เข้าไปเดินดูของใน ร้านจีฉ่อย เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู่

บักหม่องถามอาอึ้มว่า "อึ้ม.. ไอ้ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่น อะไร"
อึ้มตอบว่า "กระติกน้ำ ไง ................(ไอ้ฟาย)"

"แล้วมันทำอะไรได้มั่ง"

"ก็ใส่ของร้อน-ก็ร้อนนาน ................ใส่ของเย็น-ก็เย็น นาน"

บักหม่อง..เห็นว่าน่าสนใจ................เลยตกลงซื้อมาอันนึง

เช้าของวันใหม่..อากาศแจ่มใส บักหม่อง..ก็เอากระติกน้ำที่เพิ่งซื้อมา..ไปที่ทำงาน.. ตั้งอวดบนโต๊ะ..อย่างภาคภูมิ

หัวหน้าบักหม่องเห็นเข้า................เลยถามขึ้น "อะไรนั่นน่ะ..บักหม่อง"

"กระติกน้ำครับ"

"แล้วมันมีอะไรพิเศษ รึ"

"ก็ใส่ของร้อน..ก็ เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็น..ก็เก็บความเย็นได้"

หัวหน้าเลยถามว่า.. "แล้วใส่อะไรมาล่ะ"
บักหม่องยืด..ก่อนจะตอบ ว่า.. "กาแฟร้อน 2 แก้ว.. กับไอติม 1 ถ้วยครับ" (!!)


ทุกครั้ง..หลังถ่ายเอกสารเสร็จ บักหม่อง..จะเอาฉบับก๊อปปี้-มาตรวจทาน..เทียบกับต้นฉบับ เพื่อเช็คดูว่า..มีคำไหนสะกดผิดรึเปล่า (!!)


บักหม่อง..จะยิ้มทุกครั้ง................ที่ฟ้าผ่า เพราะนึกว่า..มีคนกำลังถ่ายรูปเขาอยู่ (!!)


รู้ป่าวว่า...ทำไมบักหม่อง................ถึงกดโทรศัพท์เบอร์ฉุก เฉิน 911..ไม่ได้ ก็เพราะ.....เขาหา เบอร์ 11 (สิบเอ็ด) .................บนแป้นไม่เจอน่ะ สิ (!!)


บักหม่อง..เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์ มาใหม่เครื่องหนึ่ง เล่นไปซักพัก..ก็เจอปัญหา บักหม่อง..เลยลองกดที่ HELP บนแป้น F1 ผ่านไปพักใหญ่...

บักหม่องหงุดหงิดมาก เลยโทรไปต่อว่า..ร้านที่เขาซื้อคอมมา "ผมกด F1 ตามที่เครื่อง บอก.. เวลาที่มีปัญหา แล้วก็รออยู่เป็น ชั่วโมง.. ยังไม่เห็นมีใครมาช่วย เลย"
คนขาย : "(**...)" (!!)

วันรุ่งขึ้น

บักหม่อง : "เครื่องคอมพิวเตอร์ คุณนี่ห่วยมากอีกแล้วน่ะ ผมเสียเงินซื้อไปตั้งเยอะมีแต่ ปัญหาไม่รู้จบ หนำซ้ำ พอโทรมาสอบถามพนักงานงานขายของ คุณ ก็ดันตอบไม่รู้ เรื่อง"
ผู้จัดการ : "มีปัญหาอะไรให้ ดิฉันรับใช้ได้ค่ะ" ( เสียงสั่นเครือมากด้วยอาการที่หวาดกลัวจะถูกลูกค้าด่า กลับ )
บักหม่อง : "ก็หน้าจอ คอมพิวเตอร์ ของคุณน่ะ รายงานผลว่า “ ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป“ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง"

ผู้จัดการบอกว่า เธอก็ไม่รู้ว่า ไอ้ซีตุ๊ป-ซีตุ๊ปเนี่ยมันคืออะไร ช่วงนั้นก็น้ำตาเกือบไหล เพราะกะว่าถ้าตอบปัญหาลูกค้าไม่ได้ ต้องถูกไล่ออกแน่เลย ตู จนกระทั่ง.....

ผู้จัดการ : "คุณลองสะกดคำ ว่า “ ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป “ หน่อยสิคะ ว่าสะกดอย่างไร"
บักหม่อง : "S - E - T - U - P - S - E - T - U - P"
ผู้จัดการ : "คุณนี่สุดยอดจริงๆ อ่านได้งัย ซีตุ๊ ป – ซีตุ๊ป 555! "


บักหม่อง..ไปหาหมอ...ในสภาพหูบวมแดงน่ากลัว

หมอถามว่า.. "ไปโดนอะไรมาครับ"
บักหม่องตอบว่า.. "ผมกำลังรีดผ้า อยู่.. แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่แทนที่จะหยิบโทรศัพท์มาพูด ผมดันเผลอ..เอาเตารีดขึ้นมาแนบหูน่ะสิ"
"โอ้ว..เดียร์" หมออุทานเป็นภาษา ฝรั่ง................ด้วยความเวทนา
"แล้วหูอีกข้าง..ทำไมถึงแดงเหมือนกันล่ะ" ..หมอถามต่อ
"ก็ไอ้บ้านั่น...เสือก โทร.กลับมาอีกรอบ..อ่ะดิหมอ" (!!)


หลังจาก... ใช้ความพยายาม................ต่อจิ๊กซอว์อยู่นาน ในที่สุด..บักหม่องก็ต่อเสร็จ เขาเอาไปอวดเพื่อน..ด้วยความภูมิใจ

"เป็น ไง ................เนี่ยฉันใช้เวลาต่อ..แค่ 5 เดือนเองนะโว้ย"
เพื่อนบักหม่องงง..ที่เขากล้าอวด "5 เดือน เหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่า..! โคตรนานเลยนะนั่น"
"แกนี่ไม่รู้อะไร" บักหม่อง..ไม่ยอมลดละ
"ดูที่กล่อง นี่ ................เห็นมั้ย .................มันบอก ว่า... "สำหรับ 4-7 ปี" แต่..ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเองนะเฟ้ย.. " (!!)

รักอย่างชัดเจน และ มั่นคง












ธรรมชาติสีทอง









June 6, 2007

กล้วยหอม

กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) รวมทั้งเส้นใยอาหาร มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยครับ
เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง 90 นาที ไม่ต้องสงสัยเลยนะครับ ..นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก (เคยเห็นในสนามเทนนิส....พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก 2-3 คำ) ยังไม่หมดนะ....เจ้ากล้วยยังมีคุณอนันต์ ป้องกันโรคภัยและภาวะต่าง ๆของร่างกายได้อีกด้วย...มาดูกันครับ

ความเศร้าซึม
จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะว่ามัน tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

pms (premenstrual syndrome)
สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย..เช่ นปวดท้อง ปวดหัว...ฯลฯ รีบกินกล้วยหอมซะดี ๆ.....ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย.... มันสามารถป้องกันได้นะจ๊ะ........

โรคโลหิตจาง (Anemia)
ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิ ต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้ แต่คงไม่ช่วยแก้โรคทรัพย์จางได้หรอกนะ....ฮ่า...

ความดันโลหิต (Blood Pressure)
กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ ยงความดันได้จริง

เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power)
ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กิตกล้วยหอมเป็นอาหารเช ้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง สดชื่น เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื ่นตัวอยู่เสมอ

อาการท้องผูก (Constipation)
เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

เมาค้าง (Hangovers)
วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้ว ยหอมปั่น banana milkshake โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย (ฮ่า.....ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย......ต้องลองแน่ ๆ...) ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งและสารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็ วขึ้น......

จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)
กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว

Morning Sickness
ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอะไรดีนะ...อาการงี่เง่าตอนเช้าเช่ นไม่อยากจะตื่นบ้าง...ฯลฯ ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าว ในตอนเช้าได้

บรรเทาแผลยุงกัด
ก่อนที่จะใช้ยาทา ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้.....คนส่วนใหญ่เป็นอย่าง นั้นจริง ๆ

ระบบประสาท (Nerves)
วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด. ...อ่อนล้าได้

อ้วนจากทำงานมากเกินไป
ที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า ความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและพวกโปเ ต้โต้ชิปส์มากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆน้อย ๆประมาณทุก ๆ 2 ชม. มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดการอยากกินของจุกจิก

แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผ ล (Ulcers)
สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เ ล็กดีขึ้น รวมทั้งกรดต่าง ๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้

ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)
ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็ นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล ้วยหอมเป็นประจำ เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็นเช่นดังป๋าคูล เป็นต้น......so cool....

ลดความอยากสูบบุหรี่
สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคติน

เห็นไหมครับว่ากล้วยหอมนั้นเป็นยอดผลไม้จริง ๆ

เปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีนมากกว่า 4 เท่า มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 2 เท่า ฟอสฟลอรัสมากกว่า 3 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆมากกว่า 2 เท่า ดังนั้นจากที่ฝรั่งเคยพูดกันว่า "An apple a day keeps doctor away." ต่อไปคงจะต้องเปลี่ยนเป็น "A banana a day keeps doctor away." ซะแล้วมั๊ง.....

ถ้ามันไม่ใช่เป็นการเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อโปรโมท พ่อค้ากล้วยหอมแล้ว ผมว่ากล้วยหอมเนี่ยมันแจ่มจริง ๆ.... ถ้าต่อไปมันแพงมากก็ไม่ต้องกินมันหรอกครับ (ผมว่ากล้วยน้ำว้าก็มีประโยชน์ต่อร่างกายมากนา.... กินมันทั้ง 2 อย่างแหละดีที่สุด)

อ้อ...แถมท้ายอีกอย่างหนึ่งรองเท้าหนัง ถ้าอยากขัดให้มันวาวแบบเร็ว ๆ ก็เอาเปลือกกล้วยหอมด้านในถูรองเท้าไปเลย เสร็จแล้วเอาผ้าแห้งเช็ดขัดออก...รองเท้าจะมันแผล็บเลย....
ที่มา: Forward Mail