อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต คุณอาจไม่ต้องขายบ้าน เปลี่ยนงาน เลิกกับแฟน หรือทำบางสิ่งบางอย่างแบบสุดๆ จะทุ่มเท หรือสุดโต่งให้เสียพลัง เพียงแค่ปรับเปลี่ยนจากความยุ่งยาก จากความลำบากแสนสาหัสในการตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับโลกใบเดิม มาทำเรื่องสบาย ๆ เรียบง่ายยึดหลัก " น้อยคือมาก" ในชีวิตประจำวัน ความสุขก็แค่เอื้อมมือคว้า ไม่ต้องถึงกับปีนป่ายหน้าผาก็หาไว้เป็นของตัวเองได้ ลองวิธีต่อไปนี้เป็นแนว ทางให้ชีวิตเรียบง่าย สร้างสรรค์และพอเพียง
1. รับไว้ .... เท่าที่รับได้
ต่อให้คุณยิ่งใหญ่มาจากโลกไหน แบกความรับผิดชอบมากมายเท่าไหร่ ทว่าคุณก็ยังไม่ใช่ศูนย์กลางของโลกอยู่ดีจงจำไว้ว่าทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณคนเดียว ปล่อยให้มันเป็นไปและให้คนอื่นตัดสินใจด้วยตัวเขาบ้าง
2. ลุย ๆ ๆ ฮุย เล ฮุย
เมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่หมายถึงความรับผิดชอบทั้งหลายที่ต้องตามมาเป็นหางว่าว ไหนจะตามหาในสิ่งที่ชอบ ตัวตน จุดยืนและความคิดของคุณเอง จัด - คิด- คัด -สรร ให้ชีวิตสมดุล ลองแบ่งหน้าที่ในชีวิตออกเป็นสองเรื่องใหญ่ได้แก่ - ความรับผิดชอบในการงาน - ความรับผิดชอบที่บ้าน จัดลำดับความสำคัญที่ใหญ่ที่สุด วาดแผนผัง หรือโยงข้อย่อย ๆ ออกมา เลือกทำแค่สิ่งที่ " ต้อง" ทำและจำเป็นในชีวิตก่อน ตัดโปรแกรมมัลดีฟส์ เที่ยวรอบโลก ช้อปปิ้งที่ฝรั่งเศสออกไปก่อน แล้วปฏิบัติภารกิจที่อยู่ตรงหน้าตามความสำคัญ
3. หยุดทุกสิ่งรอบตัว .... แล้วอยู่คนเดียวบ้าง
หาเวลาอยู่คนเดียวบ้าง อาจจะเป็นวันหยุดไม่ต้องมีแผนอะไรไม่มีตารางไม่แชท ไม่คุยโทรศัพท์ ไม่สื่อสารกับโลกภายนอกสักวัน หาอะไรทำอย่างที่อยากจะทำจริงๆไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำไม่ต้องฝืนจะนอนมอง หน้าต่างแล้วเคลิ้มหลับไป หรือเปิดเพลงที่อยากจะฟัง จะทาเล็บหรืออ่านจดหมายรักเก่าๆใช้เวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ซะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องปราศจากสาระ
4. อยู่กับครอบครัว
แม้ที่บ้านคุณจะโหวกเหวก ทั้งลูกทั้งหลานจะส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวตลอดเวลา แต่นั่นล่ะคือการเติมพลังให้ชีวิตอีกด้านหนึ่ง เพราะครอบครัวคือความอบอุ่นที่ไม่ต้องมีจริตไม่ต้องยึดติดภาพลักษณ์ อยู่บ้านจะหัวเป็นเพิ้ง กินแล้วนอน คนในครอบครัวก็รับคุณได้ อยู่บ้านแล้วลองนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่คุณเคยทำในวัยเด็ก ซึ่งเนิ่นนานแล้วที่คุณร้างรากลิ่นและรสเดิมๆนั้นจำได้ไหม ที่กินน้ำอัดลมแล้วชอบเอาบ๊วย หรือลูกอมใส่ลงไป เพราะเชื่อว่าทำให้มีหลายรสชาติ หรือไม่ก็ลองเปิดหนังผี แล้วเรียกเด็กๆมานั่งหน้าทีวี ชวนกันคลุมโปงเช้าวันเสาร์ - อาทิตย์ ต้องกินบะหมี่ป๊อก หรือส้มตำไก่ย่างที่เข็นมาขายหน้าบ้าน แล้ว อย่าลืมเปิดละครจักรๆวงศ์ๆหรือไม่ก็การ์ตูนช่องโปรด
5. เงินเดือนน้อยลง .... สุขมากขึ้น
สุดท้ายแล้วชีวิตที่สุขมากขึ้น กลับไม่ต้องการ อะไรเลย เพียงแค่มีเวลาให้ชีวิตและได้ทำในสิ่งที่รัก วัตถุไม่ใช่คำตอบของชีวิตเสมอไป เท่าที่ผ่านมาหากคุณมีเงินเดือนมากมาย แต่กลับไม่มีเงินเก็บในธนาคาร ด้วยค่าใช้จ่ายมากมายบนบ่า ค่าบัตรเครดิต ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภคภาษีสังคม ค่าของแบรนด์เนม ค่าอุปกรณ์นวัตกรรมแห่งยุคอีกมากมายและอื่นๆ อีกจิปาถะ ลด ละ เลิก ในสิ่งที่ไม่จำเป็น ชีวิตจะเบาสบาย และเหนื่อยน้อยลง ด้วยความที่ไม่ต้องวิ่งตามกระแสสังคมที่เชี่ยวกราก ชนิดที่วิ่งตาม ไม่ทันแต่ต้องขึ้นเครื่องบินโลว์คอสต์ตามกันแล้ว ค้นหาตัวเอง หาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข แม้ไม่รวย ไม่มี ตำแหน่ง เบรกกระแสรอบข้างไว้ แล้วฟังเสียงหัวใจของคุณบ้าง
6. เหลียวมองข้างทางบ้าง
วันนี้ไม่มีอะไรเร่งด่วน ถึงขั้นถ้าไปเลทนิด ๆ แล้วดวงดาวจะสะเทือน เจอดอกไม้งามๆลองชะลอรถให้ได้เห็นความงามของดอกไม้ได้ชัดๆเป็นบุญตาบ้างก็ดี
7. ซื้อของส่วนรวม
ซื้อเสื้อขาว ถุงเท้าขาว กางเกงกีฬา หรือหมวกแก๊ป ที่สามารถแชร์กับคนอื่นในครอบครัวได้ หรือคุณอาจจะไม่ซื้อแค่สบู่ที่คุณชอบคนเดียว แต่เป็นกลิ่นยอดนิยมที่ทุกคนในบ้านใช้ได้ เป็นเหมือนการแบ่งปันทางอ้อม น่ารักดีออก ถ้าคุณบอกกับเพื่อนสาวเมื่อถึงคราวที่หล่อนต้องใช้อะไรสักอย่าง แล้วคุณบอกเธอว่าไม่ต้องซื้อ "ใช้ของฉันก็ได้แก " ได้ใจเพื่อนสาวอีกโข
8. ทำอาหารจากของเหลือในตู้เย็น
อันนี้ตำราเซนว่าไว้เชียวว่า อาหารมื้อที่หรูเลิศที่สุด คืออาหารที่ใช้วัตถุดิบเท่าที่มีอยู่มาประกอบเป็นอาหารที่อร่อยลิ้น ประหยัด สร้างสรรค์ มื้อเย็นนี้ลองคิดว่าจะทำอะไรจากของในตู้เย็นได้บ้าง แทนที่จะ คิดว่าจะกินอะไร แล้วก็แล่นเข้าซูเปอร์มาร์เกตเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
9. เอ่ยคำขอบคุณจากหัวใจ
แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนอื่นทำให้ แต่ถ้าคุณพิจารณาดีๆแล้ว นี่คือสิ่งยิ่งใหญ่ที่มนุษย์พึงหยิบยื่นให้แก่กันคราวหน้าลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างลองขอบคุณคนขับจากหัวใจ หรือซื้อของจากแม่ค้าแล้วยิ้มให้จากใจสักทีคุณจะมีความสุขขึ้นอีกหนึ่งอึดใจ
10. ลองปลูกต้นไม้ด้วยมือของคุณบ้าง
การปลูกต้นไม้จะทำให้จิตใจคุณละเอียดลออขึ้น อดทนขึ้น เป็นการใส่ใจกับสรรพสิ่งเล็กๆใส่ใจให้เขาได้ เติบโต ค่อยๆทะนุถนอมดูแล เพื่อรอวันเก็บเกี่ยว
11. อยู่กับสิ่งสวยงาม
อยู่กับบ้านแทนที่จะดูแต่ทีวี เล่นอินเทอร์เน็ต มีสิ่งรื่นรมย์อื่นๆอีกมากที่รอให้คุณทำคุยกับนกกับปลาฟังเพลง เย็บปักถักร้อย ดูพระอาทิตย์ตก จิบชา ชิลล์ๆ มาสค์หน้า วาดรูป ฯลฯ เป็นการชาร์จแบตให้ชีวิตแล้ว ความสุขของคุณก็จะแผ่กระจายสู่คนอื่นด้วยตัวมันเอง
12. มีเพื่อนน้อยคนแต่มากความจริงใจ
บางคนอาจมีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง มีเพื่อนรายล้อม ทว่าจะมีสักกี่คนที่เป็นเพื่อนแท้ ร้องไห้กับปัญหาของคุณ หัวเราะกับความสุขของคุณ และช่วยกันคิดหัวแตกยามคุณวิตกจริต คุณอาจจะคิดว่าการมีเพื่อนเยอะ คือ การเข้าสังคม เป็นดัชนีชี้วัดความเหงาและโดดเดี่ยว แต่ถ้าคุณเพียงแค่เฮฮา สนุกสนานไปวัน ๆ จน หมดพลังชีวิต คุณอาจต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะต้องใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้าง ทั้งซ้าย ขวา หน้า หลัง เต็มไปหมด เพื่อนเยอะดูจะมีแต่ปริมาณแต่ไร้ซึ่งคุณภาพซะแล้ว ใส่ใจแค่คนที่คุณรักและรักคุณ ตีคำจำกัด ความเป็นเพื่อนและจำนวนให้แคบลง ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ
13. ตามใจคนอื่นบ้าง
อืมม, ได้สิ, ไงก็ได้จ้ะ, เอาเลยๆถ้อยคำเหล่านี้ นอกจากคุณสบายใจแล้ว คนอื่นก็สบายใจที่จะได้ยิน ด้วยถ้านัดเพื่อนหรือแฟน แล้วเขาไม่อยากจะไป ชักขี้เกียจหรือเพียงแค่แดดร้อน ก็ล้มเลิกแผนนั้นซะ เคยต้องทำอะไรวันไหนตามตาราง ลองไม่ทำดูก็ไม่เห็นเป็นไร เป็นการ สปอยล์ทั้งคนอื่นและตัวเองให้เบาบางจากภารกิจได้ดี
14. โละสัมภาระ
ลองจัดห้องบ่อยๆทิ้งอะไรต่อมิอะไรที่รกหูรกตาออกไป 2 สัปดาห์ครั้ง เดือนละครั้งก็ยังดี ยิ่งทำบ่อย ทำ แต่ละครั้งก็จะยิ่งไม่เหนื่อย อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้ง หรือให้คนที่เขาขาดแคลน ชีวิตคุณจะเบาสบาย เมื่อใช้ อะไรๆให้อเนกประสงค์
No comments:
Post a Comment