February 27, 2008

ดูนิสัยคน จากตัวเลขวันเกิดโดย จอห์น โรเบิร์ต พาวเวอร์

การทำนาย นิสัยจากตัวเลขเป็นตำราของฝรั่ง คิดขึ้นเพื่อให้เป็นแนวทำนายนิสัยของคนที่เกิด ในวันที่ต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 กลุ่มด้วยกัน

วิธีการจัดกลุ่มก็คือ ถ้าวันเกิดเป็นเลขหลักเดียวอยู่แล้วก็ใช้ได้เลย ส่วนผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 10-31ก็ ต้องนำตัวเลขตัวหน้ากับตัวหลังมาบวกกันให้เป็นเลขหลักเดียว เช่น ถ้าเกิดวันที่ 25 ก็ต้องนำเลข 2 บวกกับเลข 5 จะได้เท่ากับ 7 เป็นต้น แล้วนำตัวเลขไปอ่านคำทำนายต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 (ผู้ที่เกิดวันที่ 1, 10, 19, 28)
เป็นผู้ต้องการมีชีวิตแบบ "หมายเลขหนึ่ง" คือไม่อยากเป็นรองใคร มีภาวะวิสัยเป็นผู้นำ ไม่ชอบเป็นผู้ตาม คนเลข 1 นี้จะไม่ค่อยชอบทำงานราชการ ชอบที่จะก่อร่างสร้างตัว จากธุรกิจการงานของตนเองมากกว่า และก็จะทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ ด้านความรัก จะเป็นคนรักเดียวใจเดียว เสมอต้นเสมอปลาย มั่นคงในความรักมาก ผู้ที่จะเป็น คนรู้ใจของ 1 ได้เหมาะสมที่สุด คือ ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 4 จะเป็นทั้งเพื่อนกายและเพื่อนใจ คู่คิดคู่เคียง ร่วมหัวจมท้ายด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนบริวารที่จะเข้ากันได้กับ 1 ก็คือ ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 2

2. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 2 (ผู้ที่เกิดวันที่ 2, 11, 20, 29)
คนเลข 2 เป็นผู้ที่เหมาะแก่การเป็นยอดขุนพลคู่ใจของแม่ทัพ เนื่องจากว่าบุคคลหมายเลข 2 นี้เป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการจัดการอย่างมีระบบ มีความอดทน และเป็นคนละเอียด ถี่ถ้วน มักจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จต่างๆ ด้านความรัก ถ้าคนเลข 2 รักใครมักจะไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง อาจมีเพียงแววตาเท่านั้นที่พอจะบ่งบอกให้รู้ คนเลข 2 จะสามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับคนรักได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเมื่อรักใครแล้วก็มักจะอยากให้คนรักมีระเบียบเช่นเดียวกับตน และ บุคคลที่จะเข้าคู่กับคนเลข 2 ได้ดีคือบุคคลผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 7 คนเลข 2 จะสร้างความมั่นคงและสมบูรณ์พูนสุขให้กับครอบครัวอย่างยากที่จะมีใครเทียบได้จน บางครั้งอาจจะถึงรุ่นหลานเหลน

3. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 3 (ผู้ที่เกิดวันที่ 3, 12, 21, 30)
คนเลข 3 เป็นผู้ตั้งเ ป้าหมายของชีวิตไว้สูง ในขณะเดียวกันก็ชอบให้วิถีชีวิตเป็นไปตามทำนองคลองธรรม เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ และยึดมั่นในหลักการ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นผู้ที่เข้ากับคนได้ ง่าย ด้านความรัก คนเลข 3 จะทำตามกรอบธรรมเนียมประเพณีและกติกาของสังคม จะไม่มีการแหกกฎ หรือทำอะไรแผลงๆ ดำเนินการไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจีบจนถึงการแต่งงาน และเมื่อแต่งงาน ปัญหาเรื่องญาติพี่น้องของคนรักมักจะน้อยหรือไม่มีเลย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากคุณสมบัติประจำตัวของคนเลข 3 ที่เข้ากับคนได้ง่ายนั่นเอง คู่ของคนเลข 3 ที่จะเข้ากันได้ดีเป็นพิเศษคือผู้ที่มีหมายเลขประจำตัว 6 และ 9

4. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 4 (ผู้ที่เกิดวันที่ 4, 13, 22, 31)
คนเลข 4 เป็นผู้ที่มีสามัญสำนึกในเรื่อง ต่างๆ เป็นเยี่ยม ตัดสินใจเรื่องใดมักจะไม่พลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือคน ประกอบกับเป็นผู้ที่รู้เหตุรู้ผล รู้จักคุณค่าของเงิน ทำให้สามารถตั้งหลักปักฐานได้รวดเร็วยิ่งกว่าผู้ใด เป็นผู้ที่บุคคลอื่นมักจะให้ความเชื่อถือ ยิ่งร่วมงานกับผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 ยิ่งส่งเสริมกันและกัน ด้านความรัก ถึงแม้คนเลข 4 จะไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่มักจะมีคนมาแอบชอบหรือหลงรัก ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าคนเลข 4 นอกจากจะเป็นผู้ที่มีฐานะดีแล้ว ยังมีปฏิภาณในการเดาใจผู้อื่นได้แม่นยำ การทำให้ผู้ที่ติดต่อด้วยมีความนิยมและพอใจ ผู้ที่เป็นคู่รักจึงต้องทำใจให้หนักแน่นหน่อย คู่ที่เหมาะคือผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 8

5. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 5 (ผู้ที่เกิดวันที่ 5, 14, 23)
คนเลข 5 เป็นผู้ที่มีความเข้าใจในธรรมชาติของคนเป็นอย่างดี เป็นพื้นฐานส่งเสริมให้มีความสามารถเป็นพิเศษทางด้านจิตวิทยา หรือการบริหารงานบุคคลซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ต่ออาชีพการงาน ที่ต้องแนะแนวหรือให้คำปรึกษา เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมากจนบางครั้งแทบจะไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเลย เรื่องดวงยิ่งไม่สนใจ คนเลข 5 จะซ่อนอารมณ์ไว้ไม่แสดงออกจนกว่าจะถึงเวลาที่เขาหรือเธอตกลงปลงใจแน่นอนแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก เพียงแต่เก็บไฟรักไว้ และปลดปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลา เท่านั้น คนเลข 5 จะเป็นกลางกับทุกกลุ่มเลข ไม่เป็นพิเศษกับเลขประจำตัวใด แต่กลับไปผูกพันกับเวลาแทน โดยที่มักจะเกิดเหตุการณ์สำคัญในวันที่หรือเวลาที่เป็นเลข 10

6. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 6 (ผู้ที่เกิดวันที่ 6, 15, 24)
คนเลข 6 เป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยมีพิธีรีตอง เป็นผู้ที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ ไม่ชอบฝ่าฝืนระเบียบหรือกฎเกณฑ์ เป็นคน พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงไม่ค่อยจะทะเยอทะยานไขว่คว้าหาตำแหน่ง ดูผ่านๆ คนทั่วไปจะเห็นว่าคนเลข 6 ไม่มีความก้าวหน้า แต่ในความจริงแล้ว ถ้าคนเลข 6 ได้ทำงานที่ตนชอบก็จะทุ่มเทและสามารถรุ่งเรืองได้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่หาผู้เปรียบได้ยาก แต่ไม่ใช่ในฐานะนักบริหาร แสวงหาความสุขความพอใจมากกว่าจะคำนึงถึงเงิน จึงมักใช้จ่ายเงินอย่างง่ายๆ ไม่ค่อยเก็บสะสม ด้านความรัก คู่ของคน เลข 6 ไม่สามารถจะเก็บเขาหรือเธอไว้เป็นของท่านเพียงคนเดียว เพราะคนเลข 6 เป็นผู้ที่ชอบสังคม วิธีที่ดีที่สุด คือท่านควรไปกับคู่ของท่านด้วยเพื่อนหรือบริวาร ของคนเลข 6 คือผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 3 กับ 9 และถ้าสังเกตดูจะพบว่าสิ่งที่คน เลข 6 ได้ครอบครองมักจะมีเลขสามตัวนี้เกี่ยวข้อง คือ 3, 6 และ 9

7. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 7 (ผู้ที่เกิดวันที่ 7, 16, 25)
คนเลข 7 แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีอารมณ์แปรปรวน ไม่ค่อยแน่นอน บางครั้งเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง แต่บางครั้งอ่อนไหว แต่ก็เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นง่ายและชอบคนที่จริงใจตอบ ชอบแสวงหาประสบการณ์ ความเร้าใจ จึงมักจะพาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับกามารมณ์ การพนัน และสิ่งเสพติด อย่างเลี่ยงไม่พ้น แต่ก็จะเป็นคนทันคน ยากที่จะถูกใครหลอก มีแต่จะหลอกคนอื่นเขา ด้านความรัก รูปลักษณะภายนอกของคนเลข 7 มักจะเป็นที่สะดุดตา มีเสน่ห์ และโดยที่คนเลข 7 เห็นว่าเรื่องความรักและกามารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดจะรักกับคนเลขนี้ ต้องทำใจกับเรื่องดังกล่าว ตามตำรากล่าวไว้ว่า คนเลข 7 มักจะแพ้ทางคนที่มีเลขประจำตัวเป็นเลข 2 คู่ที่เป็นคนเลข 2 จึงพอจะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข

8. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 8 (ผู้ที่เกิดวันที่ 8, 17, 26)
คนเลข 8 เป็นผู้ที่มีไหวพริบสูง สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง มีวาทศิลป์เป็นเลิศ สามารถเจรจา โน้มน้าวจูงใจคนได้ดี แต่มักมีอารมณ์ไม่คงเส้นคงวา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้สูงและชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย ทำให้วิถีชีวิตของคนเลขนี้ค่อนข้างผาดโผน อาจขึ้นสูงสุดและตกลงมาต่ำสุดได้บ่อยๆ แต่คนเลข 8 เป็นผู้ที่มีความทรหดอดทน พยายามต่อสู้กับอุปสรรคให้ถึงที่สุด ซึ่งส่วนมากมักจะชนะเสียด้วย ด้านความรัก คนที่คิดจะมาเป็นคู่ของคนเลข 8 ถ้าต้องการให้คนเลข 8 สนใจ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเด่นเป็นพิเศษ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะคนเลข 8 ชอบอะไรที่สูงกว่ามาตรฐาน และสามารถสนับสนุนเป้าหมายของเขาได้ นอกจากนี้ยังต้องแสดงให้คนเลข 8 เห็นว่าท่านเข้าใจธรรมชาติของเขา ยอมรับและได้เตรียมตัวเตรียมใจ รับการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์ ถ้าทำได้ดังที่กล่าวมาจะสร้างความประทับใจให้แก่ คนเลข 8 ได้มาก คนเลข 8 มักจะสมพงศ์กับผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 และ 4

9. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 9 (ผู้ที่เกิดวันที่ 9, 18, 27)
คนเลข 9 เป็นคนรักธรรมชาติ ชอบสันโดษ เอางานเอาการ ค่อนข้างสุภาพและขี้อาย ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นมาพึ่งพิง จึงมักเห็นคนเลขนี้เป็นครูหรือนักบวช หรืองานสนับสนุนที่ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ด้านความรัก คนเลข 9 ต้องการเป็นผู้ปกป้องคุ้มครอง จะไม่ชอบคนที่เอะอะ เอ็ดตะโร หรือแข็งกระด้าง ชอบคนที่นุ่มนวล อ่อนโยน และเป็นช้างเท้าหลัง (หรืออย่างน้อยก็ต้องแสดงว่าเป็น) และเป็นคนโรแมนติก ร้อนแรงเมื่อถึงเวลา จนอาจทำให้ ท่านประหลาดใจ เพื่อนหรือบริวารที่เข้ากันได้ดีคือผู้ที่มีเลขประจำตัว เป็น 1

February 14, 2008

เรื่องควรรู้ โดยเฉพาะผู้หญิง

นางสาวอลิสา แสงขำ นักศึกษาปริญญาโท คณะนิติศาลตร์อาชญวิทยา เก็บข้อมูลจากนักโทษข้อหาข่มขืนจากคุกบางขวางและลาดยาว จำนวน 100 คน

- 90% เลือกผู้หญิงผมยาว คือหางเปีย หางม้าปล่อยตามธรรมชาติ เพราะกระชากจากข้างหลังได้ง่าย

- 87% เลือกผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าถอดง่าย แต่หากพบผู้หญิงถูกใจแต่สวมเสื้อผ้าที่ต้องใช้เวลาถอดนาน เขาจะกลับมาดักรอเป็นครั้งที่สองพร้อมกรรไกรหรือคัตเตอร์

- 84% เลือกผู้หญิงที่เดินไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย มือถือสามารถนำไปขายต่อได้ หรืออ่านการ์ตูน หรือหนังสืออื่นขณะเดินเพราะไม่ได้ระวังตัว

- 96% เลือกผู้หญิงที่เดินทางไปไหนมาไหนเวลากลางคืน เพราะผู้ชายส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกตอนกลางคืนโดยไม่คำนึงว่าต้องเป็นผู้หญิงสวยหรือหุ่นดี ขอให้มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าหากเวลานั้นเป็นเวลาที่เขาต้องการปลดปล่อยแล้วเขาไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย วัว ควาย

- 99% เลือกผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งทำทีเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับผู้หญิงคนที่ถูกใจจากกลุ่มเพื่อนของเธอที่เดินด้วยกันไปข่มขืน

- 80% สามารถข่มขืนได้ในการกระทำครั้งแรกโดยใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในผู้หญิงนั่นเองเป็นอุปกรณ์ช่วยประกอบการกระทำผิด เช่น เข็มขัด ลูกกุญแจ กระจกส่องหน้า

- 70% เลิกล้มความตั้งใจหากผู้หญิงคนนั้นจ้องหน้าเขาแล้วเริ่มต้นสนทนาสั้นๆกับเขาก่อน ขณะที่เขาเข้าประชิดตัว เช่น โทษค่ะ กี่โมงแล้ว

February 8, 2008

วิธีเบ่งกินฟรี

สมชายกะสมชาติ.....เป็นเพื่อนซี้กันตกเย็นหลังเลิกงานทุกวัน 2 คนนี้จะต้องหาที่ดื่มกินกันเป็นประจำ แต่เผอิญวันนี้...... เป็นช่วงปลายเดือน......ทั้ง 2 จึงหมดงบที่จะพอไปนั่งดื่มกันตามปกติ

สมชาย.......เฮ๊ย ไอ้ชาติ !! เอ็งมีตังเหลือเท่าไหร่ว๊ะ ?? ทั้งเนื้อทั้งตัวข้าเหลืออยู่แค่ 10 บาทเองหว่ะ
สมชาติ.......ข้ามีอยู่ 20 เองหว่ะ.......เอาไงดีอ่ะ

ทั้ง 2 ครุ่นคิดกันอยู่พักใหญ่.....

สมชายก็เอ่ยขึ้นว่า........ ไอ้ชาติ...เอ็งเอาตัง 20 บาทของเอ็งมารวมกับข้านี่..
สมชาติ.......มันก็ยังได้แค่ 30 เองนี่หว่าาาา..............เบียร์เหยือกนึง..ถูกๆก็ 90 เข้าไปแล้วนะโว๊ย
สมชาย.......เออน่าาาา.......เอ็งเอาตังมาให้ข้าละกัน...แล้วเราไปร้านเซเว่นฯกัน

และแล้วทั้ง 2 จึงพากันไปร้านเซเว่นฯ จากนั้น สมชายก็ได้ซื้อไส้กรอกบิ๊กไบค์มาในราคา 30 บาท เมื่อได้ไส้กรอกมา..เจ้าสมชายก็เอาไส้กรอกยัดเข้าไปไว้ในเป้ากางเกง..แล้วเอ่ยขึ้นว่า

สมชาย.......ไปโว๊ยยย........เราไปหาเบียร์กินกัน...คืนนี้ข้าจะพาเอ็งลุยถึงเช้าเลย 555

ทั้ง 2 พากันไปยังเบียร์การ์เด้นแห่งหนึ่ง จัดแจงสั่งเบียร์มาดื่มเหยือกแล้วเหยือกเล่า

สมชาย.......เฮ๊ยยย....ไอ้ชาติ เราเปลี่ยนร้านดีกว่าว่ะเริ่มกร่อย สาวๆไม่มีแล้วว่ะร้านนี้
สมชาติ.......ก็ดี...เอาไงเอากันสมชาย.......บ๋อย !!!! เช็คบิล !!!!!

พอบ๋อยนำบิลมาที่โต๊ะ สมชายก็เอามือรูดซิปกางเกงตัวเองแล้วควักเอาไส้กรอกที่เตรียมไว้...ออกมา จากนั้นสมชาติก็ก้มลงไปดูด....ไส้กรอก อย่างเมามันส์ บ๋อยเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยอย่างเสียงดังขึ้นว่า....... ไอ้พวกเกย์บ้า...ไอ้วิตถาร ไอ้โรคจิต...พวกเอ็งรีบออกไปจากร้านเดี๋ยวนี้เลยนะ...ไป !!!!

ทั้ง 2 ใช้วิธีนี้ตระเวนดื่มเบียร์ฟรี ไปแทบจนจะถึงเช้าเปลี่ยนร้านมาแล้วประมาณ 7 - 8 ที่ .... ก็ใช้วิธีนี้ได้ผลมาตลอด.....

สมชาติ.......เฮ๊ยยยย...ไอ้ชาย....ข้าว่าคืนนี้เราพอกันเหอะว่ะ..ข้าชักเมื่อยปากเมื่อยคอแล้ว..ก้มๆเงยๆมาทุกร้านเลยว่ะ
สมชาย.......เอ่อ..ก็ดีเหมือนกันว่ะ...

เพราะข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไส้กรอกมันหล่นหายไปตั้งแต่ร้านไหนแล้วว่ะกูแสบไปหมดแล้ว ..........

เอิ้ก.......!!!!!!!!!!!

February 7, 2008

ผลของการกินไก่

บุญล้วน กะ สายเจียม กินอยู่กับฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดยักษ์ของบริษัท ซีบีฟาร์ม เมื่อทั้งคู่ต้องไปโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากฟาร์มเท่าไรนัก พวกเขาก็เรียนอยู่ชั้นและห้องเดียวกันมาโดยตลอด เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันคนทั้งสองก็จะเอา ปิ่นโตอาหารที่พ่อแม่เตรียมมาจากบ้านขึ้นมากินพร้อมกันทุกวัน

แน่นอนอาหารที่อยู่ในปิ่นโตจะต้องเป็น ไก่ทุกมื้อ เหตุการณ์ผ่านไปหลายปีจนกระทั่งทั้งคู่อายุได้ 12 ขวบ

เที่ยงวันหนึ่ง ขณะที่พวกเขากำลังนั่ง รับประทานอาหารอยู่นั้น เด็กชายบุญล้วนสังเกตว่าอาหารในปิ่นโตของเด็กหญิงสายเจียมไม่ใช่ไก่

บุญล้วน : เธอไม่กินไก่แล้วหรือ ?
สายเจียม : ฉันไม่กินไก่อีกแล้ว เพราะฉันสังเกตเห็นว่าที่ตรงนั้นของฉันมันขึ้นขน สงสัยจะกินไก่มากไป
บุญล้วน : ขอฉันดูหน่อยได้ไหม ?

เด็กหญิงสายเจียมดึงกระโปรงของเธอขึ้น เด็กชายบุญล้วนเห็นขนที่ตรงนั้นตามที่เธอบอก

บุญล้วน : เออ จริงด้วยซี แต่แปลกแฮะฉันไม่เห็นเป็นอย่างเธอ

หลังจากวันนั้นเด็กชายบุญล้วนยังคงกินไก่เป็นอาหารกลางวันต่อไป ในขณะที่เด็กหญิงสายเจียมไม่ยอม กินไก่อีกเลย

เหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งปี เที่ยงวันหนึ่งเด็กหญิงสายเจียมสังเกตเห็นว่าเด็กชายบุญล้วนไม่ได้เอาไก่มากินเหมือนเช่นที่เคย

สายเจียม : เธอไม่กินไก่อีกแล้วหรือ ?
บุญล้วน : อ๋อ ฉันไม่กินแล้วเพราะฉันก็มีขนขึ้นที่ตรงนั้นเหมือนกัน
สายเจียม : ขอฉันดูหน่อยได้ไหม ?

เด็กชายบุญล้วนดึงกางเกงเขาลงมา เด็กหญิงสายเจียมเห็นเข้าถึงกับตาค้าง

สายเจียม : แย่แล้ว ฉันว่าเธอหยุดกินไก่ช้าไปหน่อยนะ เพราะไม่ใช่แค่ขนงอกออกมาเท่านั้น ตอนนี้ คอไก่มันก็ออกมาด้วยแถมยังมีกึ๋นออกมาอีกสองลูกต่างหาก

February 4, 2008

เมื่อได้รัก


เมื่อตอนอายุ 5 ปี ..
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอเอียงคอน้อยๆ ..
กระพริบตาอันกลมโตของเธอ ..
แล้วถามฉันว่า …
“หมายความว่า..อะไรหรือ?”

----------

เมื่อตอนอายุ 15 ปี
ฉันบอกว่า...ฉันรักเธอ
เธอหน้าแดงก่ำ ..ก้มหน้าเล่นชายเสื้อเธอเอง
รู้สึกว่า..เธอกำลังยิ้มอยู่

----------

เมื่อตอนอายุ 20 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอซบลงบนไหล่ฉัน ..กอดแขนฉันไว้แน่น
ราวกับกลัวว่า...ฉันจะหายจากไป..ต่อหน้าเธอ

----------

เมื่อตอนอายุ 25 ปี
ฉันบอกว่า...ฉันรักเธอ
เธอวางอาหารเช้าไว้บนโต๊ะ ..
แล้วเดินมาดึงจมูกฉัน...พร้อมกับพูดว่า...
“รู้แล้ว! ตื่นขึ้นมาได้แล้ว ..จะนอนไปถึงไหน?”

----------

เมื่อตอนอายุ 30 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอหัวเราะ..แล้วพูดว่า
“ถ้าเธอรักฉันจริงๆ ..เลิกงานแล้ว..ก็อย่าเถลไถลไปที่อื่นสิ
แล้วก็..อย่าลืมซื้อกับข้าวมานะ!”

----------

เมื่อตอนอายุ 40 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอเก็บจานชามบนโต๊ะไปล้าง...พร้อมกับพูดว่า
“รู้แล้ว.. รู้แล้ว...รีบๆไปสอนการบ้านให้ลูกไป!”

----------

เมื่อตอนอายุ 50 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอนั่งถักเสื้ออยู่ ..แล้วพูดกับฉัน..โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
“จริงหรือ? ในใจเธอ..ไม่ใช่คิดอยากจะให้ฉันตายเร็วๆรึไง?”
แล้ว..เธอก็หัวเราะไม่หยุด

----------

เมื่อตอนอายุ 60 ปี
ฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอหัวเราะพลางทุบไหล่ฉัน
“ตาบ้า! ลูกๆก็โตกันหมดแล้ว.. ยังจะมาทำปากหวานอีก!”

----------

เมื่อตอนอายุ 70 ปี
เรา..นั่งอยู่บนเก้ายาว ..ทบทวนจดหมายรัก...
ที่ฉันเขียนให้เธอ...เมื่อ 50 ปีก่อน..ด้วยกัน
มืออันเหี่ยวย่นของเราสองคน..ก็จับกันไว้ตลอด
เมื่อฉันบอกว่า..ฉันรักเธอ
เธอมองหน้าฉันแล้วยิ้มให้
ถึงแม้ใบหน้าเธอ..จะเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
แต่..เธอก็คงยังแลดูสวยงาม..เสมอ

----------

เมื่อตอนอายุ 80 ปี
เธอบอกว่า..เธอรักฉัน
แต่..ฉันไม่ได้พูดอะไรสักคำ
เพราะว่า..ฉันร้องไห้ออกมา
นี่..เป็นวันที่ฉันมีความสุข..มากที่สุดในชีวิต
เพราะว่า..
ในที่สุด..เธอก็ยอมพูดออกมาว่า..
“ฉัน รัก เธอ”